วันอาทิตย์ที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2559

ชื่อผลงาน ขอจงทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน


ชื่อผลงาน ขอจงทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน
เทคนิค สีน้ำบนกระดาษ
ผลงานของเกริกบุระ ยมนาค
ผลงาน จิตรกรรม
สื่อความหมาย
เป็นผลงานจิตรกรรมที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากความรัก ความจงรักภักดี และความศรัทธาในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช

ชื่อผลงาน ลูกม้า


ชื่อผลงาน ลูกม้า
เทคนิค ประติมากรรมปูนปลาสเตอร์
ผลงานของไพฑูรย์ เมืองสมบูรณ์
ผลงาน ประติมากรรมลอยตัว
สื่อความหมาย
เป็นผลงานประติมากรรมที่เกิดจากความประทับใจในท่วงท่า และลีลาในการทำความสะอาดตัวเองของลูกม้า

ชื่อผลงาน ชีวิตและศรัทธา

ชื่อผลงาน ชีวิตและศรัทธา
เทคนิค ประติมากรรมหล่อโลหะ
ผลงานของเข็มรัตน์ กองสุข
ผลงาน ประติมากรรมลอยตัว
สื่อความหมาย
เป็นผลงานประติมากรรมในรูปแบบตามความรู้สึก ที่ทำให้ผู้ชมใช้จินตนาการและความรู้สึกด้วยตนเอง
ศิลปินถ่ายทอดผลงานด้วยทัศนธาตุต่างๆที่เห็นได้อย่างชัดเจนคือรูปร่าง รูปทรง และบริเวณว่าง ที่มีรูปแบบตามความรู้สึก แสดงเส้นรอบนอกด้วยเส้นโค้งและเส้นตรงได้อย่างกลมกลืนและสอดคล้องกัน ขนาด สัดส่วนของผลงานก็สัมพันธ์กันเป็นอย่างดี ดูมีความมั่นคง ส่วนสีของผลงานนั้นเป็นสีแท้ของวัสดุ ศิลปินได้นำบริเวณว่างมาสร้างจุดสนใจในผลงาน โดยการเจาะจงผลงานให้เกิดบริเวณว่าง

ชื่อผลงาน เปลี่ยนแปลง

ชื่อผลงาน เปลี่ยนแปลง
เทคนิค สีน้ำมันบนผ้าใบ
ผลงานของรุ่งศักด์ ดอกบัว
ผลงาน จิตรกรรม
สื่อความหมาย เป็นผลงานจิตรกรรมในรูปแบบตามความรู้สึก ศิลปินได้นำทัศนธาตุต่างๆมาใช้ในการสร้างสรรค์ผลงานด้วยสี รูปร่าง รูปทรงอิสระ ไม่มีรูปแบบที่ตายตัว ให้ความรู้สึกเคลื่อนไหว ตื่นตาตื่นใจ และแสดงถึงความเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา
ศิลปินผสมผสานทัศนธาตุๆได้อย่างกลมกลืน โดยยึดความเป็นเอกภาพ

ชื่อผลงาน แม่กับลูก

ชื่อผลงาน แม่กับลูก
เทคนิค ประติมากรรมปูนปลาสเตอร์
ผลงานของสุวิช สถิตวิทยานันท์
ผลงาน ประติมากรรมลอยตัว
สื่อความหมาย
เป็นผลงานประติมากรรมในรูปแบบตัดทอน รูปแม่กับลูก ศิลปินถ่ายทอดผลงานด้วยทัศนธาตุต่าง ๆ ที่เห็นได้อย่างชัดเจนคือรูปร่าง รูปทรง ที่มีการตัดทอนรายละเอียด แสดงเส้นรอบนอกด้วยเส้นโค้งลักษณะต่าง ๆ ได้อย่างกลมกลืนและสอดคล้องกัน ขนาด สัดส่วนของผลงานก็สัมพันธ์กันเป็นอย่างดี ส่วนสีของผลงานนั้นเป็นสีขาว ซึ่งเป็นสีของวัสดุที่ใช้ในการสร้างสรรค์คือปูปลาสเตอร์ เป็นการสื่อความหมายถึงความรักอันบริสุทธิ์ระหว่างแม่กับลูก ในส่วนของพื้นผิวจะมีลักษณะผิวเรียบ ละเอียด แสดงถึงความนุ่นนวล ละมุนละไม ให้ความรู้สึกปลอดภัย น่าทะนุถนอม

ชื่อผลงาน ดอกไม้

ชื่อผลงาน ดอกไม้
เทคนิค สีน้ำมันบนผ้าใบ
ผลงานของศาสตราจารย์สวัสด์ ตันติสุข
ผลงาน จิตรกรรม
สื่อความหมาย
เป็นผลงานจิตรกรรมหุ่นนิ่งในรูปแบบตัดทอน ศิลปินสร้างสรรค์ผลงานด้วยทัศนธาตุต่างๆได้อย่างกลมกลืนน่าสนใจ โดยเฉพาะการใช้เส้นในการตัดทอนรูปร่าง รูปทรงของหุ่นนิ่งให้มีรูปแบบตัดทอน
การจัดวางภาพลงบนวริเวณว่างทำได้อย่างเหมาะสม ขนาด สัดส่วนของภาพกับผืนผ้าใบมีการจัดวางได้อย่างสมุดเช่นกัน
แสงเงาและสีของผลงานมีการใช้ค่าน้ำหนักของสีที่ดูกลมกลืนกัน มีการนำสีข้างเคืยงมาใช้ในการสร้างสรรค์ผลงานทำให้ภาพดูกลมกลืนด้วยสี

ชื่อผลงาน ป้าอิน

ชื่อผลงาน ป้าอิน
เทคนิค ปูนปลาสเตอร์
ผลงานของไพฑูรย์ เมืองสมบูรณ์
ผลงาน ประติมากรรมลอยตัว
สื่อความหมาย เป็นผลงานคนเหมือน รูปผู้หญิงสูงวัย ศิลปินได้นำทัศนธาตุต่างๆมาใช้ในการสร้างสรรค์ผลงานให้มีลักษณะเหมือนจริงมากที่สุด มีการนำเส้นโค้งลักษณะต่างๆมาถ่ายทอดรูปร่าง รูปทรงของบุคคลและแสดงรายละเอียดต่างๆ
ผลงานนี้มีขนาดและสัดส่วนที่ถูกต้องชัดเจน
มีลักษณะพื้นผิวที่เหมือนจริง ดูจากผิวเนื้อมีการขัดและตกแต่งจนเรียบ ส่วนเสื้อผ้ามีลักษณะพื้นผิวที่หยาบกว่า ทำให้ผลงานมีความเด่นชัดและให้อารมณ์ความรู้สึกมากยิ่งขึ้น

ภาพถ่ายฝีพระหัตถ์

ภาพถ่ายฝีพระหัตถ์
       
       การถ่ายภาพเป็นงานศิลปะอีกแขนงหนึ่งที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงชำนาญ ไม่ว่าจะเป็นกล้องธรรมดาหรือกล้องถ่ายภาพยนตร์ และการถ่ายภาพสไลด์ ก็เป็นงานอดิเรกที่โปรดมาก พระองค์สนพระราชหฤทัยมาตั้งแต่ทรงพระเยาว์ เมื่อครั้งดำรงพระฐานันดรศักดิ์เป็นสมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าภูมิพลอดุลยเดช ยามเมื่อตามเสด็จพระราชดำเนินสมเด็จพระบรมเชษฐาธิราชนิวัติประเทศไทยคราวใด ก็จะเห็นพระองค์ทรงสะพายกล้องถ่ายรูปบันทึกภาพเหตุการณ์ต่างๆ ทุกแห่งที่ได้เสด็จฯ ไป เมื่อเสด็จขึ้นครองราชย์ก็ทรงฉายพระรูปสมเด็จพระบรมราชินีนาถ สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ และบันทึกภาพประชาชน ภาพเหตุการณ์ต่างๆมายมาก
       
       นอกจากนี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวยังเชี่ยวชาญแม้กระทั่งการล้างฟิล์ม การอัด ขยายภาพ ทั้งภาพขาวดำและภาพสีนับเป็นพระปรีชาที่ยากจะหาใครเสมอเหมือน โดยพระองค์ทรงจัดทำห้องมืด (DarkRoom) ขึ้นในบริเวณชั้นล่างของตึกที่ทำการสถานีวิทยุ อ.ส. ด้วยพระราชประสงค์ที่จะทรง"สร้างภาพ" ให้เป็นศิลปะถูกต้องและรวดเร็วด้วยพระองค์เอง
       
       ทั้งนี้ เมื่อทรงครองราชย์แล้วไม่ว่าจะเสด็จไปเยี่ยมราษฎร ณ ที่แห่งใด จะสังเกตเห็นว่าจะทรงมีกล้องถ่ายรูปอยู่ข้างพระวรกายเสมอ โปรดการถ่ายภาพสถานที่ทุกแห่ง เพื่อเก็บไว้เป็นหลักฐานประกอบงานที่ได้ทรงปฏิบัติ
       
       *ตามรอยพ่อแห่งแผ่นดิน
       ณ หออัครศิลปินถิ่นเลิศล้ำ
       

       "หออัครศิลปิน" จังหวัดปทุมธานี ก่อตั้งโดยสำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ สร้างขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติองค์ในหลวง เนื่องในวโรกาสที่พระองค์ทรงครองราชย์ครบ 50 ปี เพื่อแสดงผลงานอันทรงคุณค่าทางด้านศิลปะ และวัฒนธรรมของพระองค์ในฐานะที่ทรงเป็น "อัครศิลปิน"
       

       ภายในหออัครศิลปินแบ่งส่วนเป็นห้องตามศิลปะประเภทต่างๆของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และบรรดาเหล่าศิลปินแห่งชาติผู้มีผลงานดีเด่นทางด้านศิลปะและวัฒนธรรมแขนงต่างๆ เช่น วรรณกรรม หัตถกรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น มีการจัดแสดงพระราชประวัติ และพระอัจฉริยภาพ มีอยู่ 2 ห้อง คือบริเวณชั้น 2 และบนชั้น 3
       
       ในชั้น 2 เป็นการนำเสนอในรูปแบบวิดีโอเป็นจำนวน 9 ตอน แต่ละตอนบ่งบอกถึงพระปรีชาด้านต่างๆ อาทิ ด้านหัตถกรรม ที่นำเสนอพระปรีชาสามารถในการสร้างเรือใบ "ซูเปอร์มด" ด้วยภาพถ่ายดูราแทน แบบจำลองเรือใบซูเปอร์มด ด้านวรรณศิลป์และวาทศิลป์ ที่นำเสนอพระปรีชาสามารถด้านการทรงใช้ภาษาในงานวรรณกรรมของพระองค์ จัดแสดงผลงานพระราชนิพนธ์ติโต นายอินทร์ผู้ปิดทองหลังพระ พระมหาชนก และทองแดง
       
       ส่วนบนชั้น 3 ก็เป็นอีกห้องหนึ่งที่นำเสนอเรื่องราวของอัครศิลปิน โดยผ่านสื่อวิดีทัศน์ นำเสนอภาพความเป็นอัครศิลปินที่รายล้อมด้วยศิลปินแห่งชาติ ภาพความเป็นมิ่งขวัญแก่ศิลปินทุกแขนง นอกจากนี้ยังมีพระราชดำรัส และพระราชสมัญญา "อัครศิลปิน" มีการนำเสนอเป็นภาพนิ่ง และสื่อมัลติมีเดีย จัดแสดงผลงานด้านคีตศิลป์ และภาพฝีพระหัตถ์ที่หาชมได้ยาก
       

       สำหรับจุดสำคัญของหออัครศิลปินคงจะหนีไม่พ้นที่ประดิษฐานบุษบกไม้ประดับกระจกปิดทอง ภายในบุษบกประดิษฐานพระราชลัญจกร ประจำพระองค์รัชกาลที่ 9 จำลอง บนพานแว่นฟ้า นั้นเปรียบเสมือนเป็นตัวแทนพระองค์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในฐานะ "อัครศิลปิน" ฐานโดยรอบบุษบกhttp://www.manager.co.th/asp-bin/

ปีแยร์-ออกุสต์ เรอนัวร์


ปีแยร์-ออกุสต์ เรอนัวร์ (Pierre-Auguste Renoir)  
(25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2383 - 3 ธันวาคม พ.ศ.2462)  
ปีแยร์-ออกุสต์ เรอนัวร์ เกิดวันที่ 25 กุมภาพันธ์ ค.ศ.1841ที่เมืองไลโมจ (Limoges) ประเทศฝรั่งเศส  ครอบครัวย้ายมาที่ปารีสตั้งแต่เขายังเล็ก
เรอนัวส์ฉายแววรักศิลปะตั้งแต่เด็กและเขามีโอกาสได้เข้าไปฝึกงานที่โรงงานทำตุ๊กตาดินเผาเคลือบสี หลังจากโรงงานเลิกกิจการเขาได้ช่วยพี่ชายวาดภาพตกแต่งพัด  ในวัยเด็กเรอนัวร์มักจะเข้าไปชมงานศิลปะที่พิพิธภัณฑ์ลูฟร์อยู่เสมอ เขาชื่นชอบผลงานของศิลปินฝรั่งเศสในอดีตหลายคน เช่น วาโต บูแชร์ และฟราโกนาร์ด
ระหว่างปี 1870 ระหว่างเกิดการเคลื่อนไหวอันสำคัญของศิลปินหัวก้าวหน้าที่ต้องการบันทึกเรื่องราวในสังคมที่เกิดในปัจจุบันและใช้สีสันที่สดใสกว่าภาพของศิลปินในอดีต โดยการนำของศิลปินรุ่นพี่ที่สำคัญอันได้แก่ มาเนและกูรเบท์ 
ในปี 1862 เรอนัวร์ตัดสินใจเข้ามาศึกษาศิลปะอย่างจริงจังที่สถาบันศิลปะ ดิเอธิเลียเกลอร์ (TheAtelier Gleyre) เขาได้รู้จักกับเพื่อนร่วมสถาบันได้แก่ โมเน ซิสลี และบาซิลี ภายหลังได้รวมตัวกันลาออกจากสถาบันศิลปะ เพื่อศึกษาแนวทางศิลปะตามความเชื่อของตัวเอง  
ผลงานของเรอนัวร์ระยะแรกได้รับิอิทธิพลจากศิลปินรุ่นพี่คือกูรเบท์และมาเน เรอนัวร์รับเทคนิคการวาดภาพด้วยใบมีดจากกูรเบท์  ภายหลังเขาได้พัฒนาผลงานเป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง ในปี 1860
เรอนัวร์ ไม่ใช่คนฐานะดี เขาไม่มีแม้กระทั่งเงินที่จะซื้อสีสำหรับวาดภาพ ระหว่างปี 1866 -1867 ผลงานของเขาถูกปฏิเสธจากกรรมการซาลอง แต่เขาก็ไม่เคยละความพยายาม เขาพัฒนาเทคนิคการวาดภาพโดยการศึกษาจากศิลปินรุ่นพี่อีกหลายคน เช่น เดอลากรัว และกามีร์โกโร โดยเฉพาะเทคนิคของเดอลากรัวเห็นชัดเจนจากภาพของเขาชื่อ โอดาลิสก์ (Odalisque, 1870)
ในปี 1869 เรอนัวร์ออกไปวาดภาพนอกสถานที่เคียงคู่กับโมเนที่สถานตากอากาศริมแม่น้ำเซน ผลงานยุคนี้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวและเป็นที่ประทับใจนักวิจารณ์ศิลปะชื่อ โฟเบ พูล (Phoebe Pool) โฟเบได้เขียนบันทึกไว้ว่า "เรอนัวร์และโมเนได้ค้นพบว่าในเงามืดไม่ได้เป็นสีน้ำตาลหรือสีดำอย่างที่ศิลปินในอดีตเคยวาด แต่เป็นสีที่เกิดจากสีแวดล้อม แต่สีในตัววัตถุย่อมเปลี่ยนแปลงตามแสงที่เรามองเห็น ซึ่งเกิดจากการสะท้อนจากสีในวัตถุอื่น ๆ หรือเกิดจากการตัดกันของสีข้างเคียง"
The Swing and The Ball at The Moulin De Galette
ภาพวาดที่มีราคาแพงเป็นอันดับ 2 ของโลก 
มูลค่าประมาณ $110,420,000  
ผลงานของ Pierre Auguste Renoir
ปี 1874 เรอนัวร์ได้ร่วมแสดงนิทรรศการผลงานศิลปะแนวอิมเพรสชั่นนิสม์ร่วมกับเพื่อนศิลปินคนอื่น ๆ  และตั้งแต่ปี 1870 เป็นต้นมา ผลงานของเรอนัวร์ก็ได้รับความสนใจจากนักสะสมหลายคน เขาเริ่มขายผลงานได้และยังรับวาดภาพครอบครัวของนักสะสมเหล่านี้หลายภาพ เช่น ภาพของครอบครัวชาร์เพนเทียร์ (The Charpentiers)   ระหว่างนี้เรอนัวร์ได้สร้างผลงานที่บันทึกชีวิตผู้คนในอิริยาบทที่กำลังพักผ่อน หรือกำลังรื่นเริงตามสถานบันเทิง ภาพที่โด่งดังและรู้จักกันมากที่สุดคือภาพชื่อ งานบอลล์ที่มูแลงเดอกาเล (The Swing and The Ball at The Moulin de Gallette) เรอนัวร์ได้แสดงภาพความงดงามของผู้คนในงานรื่นเริงเหล่านี้โดยเฉพาะภาพผู้หญิงสวยที่อวดเนื้อหนังที่ขาวอวบสมบูรณ์งดงาม
ตั้งแต่ปี 1880 เป็นต้นมา เรอนัวร์พยายาพัฒนาสไตล์การวาดภาพของตัวเองให้แปลกไปกว่าการวาดภาพแบบอิมเพรสชั่นนิสม์แบบเดิมๆ ภาพระยะหลังส่วนใหญ่เป็นภาพผู้หญิงที่เน้นรูปทรงและเส้นรอบนอกที่ชัดเจนซึ่งเขาได้รับอิทธิพลจากศิลปะแนวคลาสิกโดยเฉพาะผลงานของราฟาเอลซึ่งเรอนัวร์เกิดความชื่นชมภาพวาดเหล่านั้นภายหลังที่ได้เดินทางไปชมงานที่อิตาลี ผลงานในยุคสุดท้ายภายหลังปี1880 เป็นต้นมา ผลงานส่วนใหญ่เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับความงามของสตรีเพศในอิริยาบทต่าง ๆ เช่น ภาพผู้หญิงเปลือย ภาพผู้หญิงอาบน้ำ ผู้หญิงอ่านหนังสือ ผลงานในยุคนี้ทำให้เรอนัวร์ประสบผลสำเร็จอย่างสูงทั้งทางด้านชื่อเสียงและทางการเงิน
ผลงานภาพวาดของเรอนัวร์ หลังปี 1903 มีลักษณะภาพวาดฝีแปรงหยาบ รูปทรงของผู้หญิงมีทรวดทรงอวบอ้วนเกินพอดี สาเหตุมาจากเขาป่วยด้วยโรคไขข้ออักเสบจนมือไม่สามารถจับพู่กันได้ เขาจึงต้องใช้เศษผ้ามามัดพู่กันกับมือไว้ขณะวาดภาพ
เรอนัวร์เสียชีวิตวันที่ 3 ตุลาคม 1919 ที่เมืองคาเยสเซอร์เมอร์ เรอนัวร์เป็นศิลปินที่มีความมุ่งมั่นและความพยายามต่อสู้เพื่อสร้างสรรค์งานศิลปะ อีกทั้งเป็นคนที่ไม่ยอมพ่ายแพ้ต่อความยากจนและความเจ็บป่วย เขาเป็นศิลปินที่ประสบความสำเร็จและเป็นคนที่น่ายกย่องอีกคนหนึ่งของโลก
ภาพวาด มาดามยอร์จ ชาร์เพนเทีย 
Madame Georges Charpentier
รัฐบาลฝรั่งเศสซื้อผลงานของเขาที่ชื่อ มาดามยอร์จ ชาร์เพนเทีย มาจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์ลูฟร์ตั้งแต่เขายังมีชีวิตอยู่

พาโบล ปิกาโซ

         การที่คนๆ หนึ่งจะกลายมาเป็นจิตรกรเอกของโลกไม่ใช่เรื่องง่าย และหากมีพรสวรรค์ติดตัวมาตั้งแต่เกิด อีกทั้งมีองค์ประกอบของชีวิตที่เหมาะสม คือ ได้เกิด ได้อยู่ในครอบครัวและสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยต่อการสร้างสรรค์งานศิลปะมาตั้งแต่เด็ก  จึงไม่ยากเลยที่คนๆ นั้นจะเกิดแรงบันดาลใจและจินตนาการในการสร้างสรรค์งานศิลปะขึ้นได้อย่างไร้ขอบเขต 
        เรากำลังพูดถึงจิตรกรชาวสเปนคนนี้ ปาโบล รุยซ์ ปิกัสโซ่ (Pablo Ruiz Picasso) ผู้ที่มีผลงานภาพวาด ชื่อ Garcon a la Pipe เป็นภาพวาดเด็กชายถือไปป์และมีมงกุฎดอกไม้ประดับไว้บนศรีษะ ซึ่งมีราคาแพงเป็นอันดับ 3 ของโลก คือ 106,910,000  ดอลล่าร์สหรัฐ  ปิกัสโซ่ วาดภาพนี้ ขณะที่อาศัยอยู่ที่ Montmartre ในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เมื่อ ค.ศ 1950  ขณะที่เขามีอายุเพียง 24 ปี 
        ภาพวาดที่มีราคาแพงที่สุด เป็นอันดับที่ 3 ของโลก "Garcon la Pipe"
        ปิกัสโซ่ (Picasso)  เกิดเมื่อวันที่ 25 ตุลาคม ค.ศ. 1881  ที่เมืองมาลากา แคว้นอันดาลูเซีย ประเทศสเปน เขาเป็นบุตรชายคนโตของ คอนโคเซ รุยซ์ อี บลัสโก (Don Jose Ruiz สเปน : Don José Ruiz y Blasco) ซึ่งมีอาชีพเป็นครูสอนศิลปะในมหาวิทยาลัย กับมารีอา ปีกัสโซ อี โลเปซ (Maria Picasso Ruiz ; สเปน : María Picasso y López)  
        ปิกัสโซ่ (Picasso) เป็นเด็กที่แปลกกว่าเด็กทั่วไปที่ปกติจะต้องเรียก แม่ เป็นคำพูดแรก  แต่คำแรกของปิกัสโซ่ กลับเป็นคำว่า “piz, piz” ซึ่งมาจากคำว่า “lapiz (ลาปิซ) ซึ่งแปลว่า ดินสอ ในภาษาสเปน
        ปิกัสโซ่ (Picasso) ได้รับของขวัญเป็นจานสีและพู่กันเมื่อเขามีอายุได้เพียง 6 ขวบ  ความเป็นศิลปินฉายแววตั้งแต่เด็กและเด่นชัดอีกครั้งจากความบังเอิญ เมื่อบิดาซึ่งกำลังวาดภาพนกพิราบ ลุกออกจากห้องเพื่อไปทำธุระอะไรบางอย่าง และปิกัสโซ่เข้ามาวาดรูปนั้นแทนจนเสร็จ ยังความประหลาดใจให้กับบิดาเมื่อเขากลับเข้ามาในห้องนั้น เพราะภาพวาดนกพิราบที่ปิกัสโซ่วาดไว้ นอกจากจะสวยงามแล้วก็ยังเต็มไปด้วยพลังแห่งการสร้างสรรค์อีกด้วย
        ปิกัสโซ่ (Picasso)  สร้างสรรค์งานศิลปะได้หลายรูปแบบ ไม่ใช่เฉพาะแต่เพียงภาพวาด (drawing) หรือภาพวาดสีด้วยพู่กัน (painting) แต่เขายังสามารถทำ รูปปั้น รูปหล่อ (sculpture) ภาพพิมพ์ (printmaking) เครื่องเคลือบดินเผา (ceramics)  รวมทั้งใช้วัสดุอื่นๆ มาประยุกต์ให้เป็นผลงานศิลปะได้อีกด้วย เช่น การใช้ชิ้นส่วนเก่าของรถจักรยานมาทำงานหล่อที่ชื่อว่า Bull’s Head 
ภาพเขียนของปีกัสโซแบ่งเป็นช่วงต่าง ๆ ได้ ดังนี้
1. Blue Period ค.ศ. 1901-1904 (ยุคสีน้ำเงิน)
2.Rose Period ค.ศ. 1904-1906 (ยุคสีชมพู)
3.African-Influenced Period ค.ศ. 1906 - 1907
 
4.Cubism ค.ศ. 1909 - 1912 (บาศกนิยม)
5.Classicism and surrealism  ค.ศ. 1913 - 1945 (ยุคคลาสสิกและเหนือจริง)
 
6.Later works ค.ศ. 1946- 1973 (ยุคสุดท้าย)
 
        หลังจากฝากผลงานศิลปะอันทรงคุณค่าไว้มากมายบนโลกใบนี้ ปีกัสโซ่ ก็จากโลกนี้ไปในปี ค.ศ. 1973  ขณะที่เขามีอายุได้ 91 ปี
        ปิกัสโซ่ (Picasso) มีชีวิตที่แตกต่างจากศิลปินคนอื่นๆ ตรงที่เขาได้รับการยกย่องให้เป็นจิตรกรเอกตั้งแต่ยังมีชีวิตอยู่  เขามีโอกาสได้ชื่นชมความสำเร็จของตัวเอง และร่ำรวย ต่างจากจิตรกรคนอื่นๆ ที่มักจะมีชื่อเสียงหลังจากเสียชีวิตไปแล้วและในขณะอยู่ก็ไม่ได้ร่ำรวยอะไร

อาจารย์ถวัลย์ ดัชนี

 ภาพวาดถวัลย์ ดัชนี ผลงานอันทรงคุณค่าทางศิลปะ
        ภาพวาดถวัลย์ ดัชนี images ผลงานอันทรงคุณค่าทางศิลปะที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว มาดูผลงานภาพวาดของ อ.ถวัลย์ ดัชนี บรมครูในความทรงจำ

           นับว่าเป็นการสูญเสียครั้งสำคัญที่สะเทือนไปทั้งวงการศิลปะเลยทีเดียว กับการจากไปของ อ.ถวัลย์ ดัชนี ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ ปี 2544 ด้วยวัย 74 ปี ที่ถึงแม้ตัวท่านจะจากไป แต่ผลงานทางศิลปะยังคงเป็นตัวแทนที่แสนงดงามอยู่ในใจบรรดาลูกศิษย์และชาวไทยอยู่เสมอ

          ทั้งนี้ อ.ถวัลย์ ได้สร้างผลงานอันทรงคุณค่ามากมาย ตั้งแต่ครั้นวัยเยาว์จวบจนกระทั่งสิ้นลมหายใจ โดยผลงานที่ถือว่าเป็นเอกลักษณ์ของ อ.ถวัลย์ เลยก็คืองานด้านฝีมือการวาดรูปที่มีความเป็นเฉพาะตัวของท่านเอง ซึ่งนับตั้งแต่เรียนสำเร็จชั้นมัธยมที่จังหวัดเชียงราย อ.ถวัลย์ก็ได้เข้าเรียนศิลปะที่โรงเรียนเพาะช่างของจังหวัดเชียงราย และเป็นนักเรียนเพาะช่างดีเด่นด้วยฝีมือการวาดรูปเหมือนจริง โดยหนึ่งในผลงานของท่านคือภาพวัดเบญจมบพิตรที่ได้รับเลือกให้แสดงในหอศิลปแห่งชาติ นครโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น และแสดงในนิทรรศการศิลปะร่วมสมัยแห่งชาติของประเทศไทย 

           ต่อมาเมื่อจบจากโรงเรียนเพาะช่างในปี พ.ศ. 2500 ท่านได้สอบเข้าเรียนที่คณะจิตรกรรมประติมากรรมและภาพพิมพ์ มหาวิทยาลัยศิลปากร และสถาบันแห่งนี้เองที่ได้หล่อหลอมให้ท่านพัฒนางานจากภาพวาดเหมือนจริงไปเป็นภาพวาดที่ให้ความรู้สึกประทับใจ (Impressionism) แบบไทย หลังจากสำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยศิลปากรแล้ว ท่านได้รับทุนของรัฐบาลเนเธอร์แลนด์ให้ไปศึกษาต่อในระดับปริญญาโทและปริญญาเอกที่ราชวิทยาลัยศิลปแห่งชาติ อัมสเตอร์ดัม เนเธอร์แลนด์ โดยในระหว่างที่ศึกษาศิลปะที่ประเทศเนเธอร์แลนด์ ท่านได้สร้างผลงานอันเป็นที่โดดเด่นและเป็นที่นิยมชมชอบของวงการศิลปะสากลอย่างกว้างขวาง จนได้นำผลงานออกแสดงนิทรรศการไปทั่วโลก ตัวอย่างผลงานคือ...

          - ภาพเขียนสีน้ำมัน 10 ภาพ ประดับอยู่ที่โรงพิมพ์สยามรัฐ

         - งานจิตรกรรมวิทยานิพนธ์ศิลปบัณฑิต คณะจิตรกรรม มหาวิทยาลัยศิลปากร 12 ภาพ ประดับอยู่ที่สถานทูต

         - งานวาดเส้นและจิตรกรรมขนาดใหญ่  5 ภาพ ปัจจุบันเป็นผลงานในการสะสมของโซธปี้ สิงคโปร์ ประมูลมาจากอินโดนีเซีย เป็นหนึ่งในงานกิจกรรมที่มีมูลค่าสูงสุดของเอเชีย

         - ภาพเขียนจิตรกรรมขนาดใหญ่ประดับสถานทูตไทย ณ กรุงปารีส ฝรั่งเศส

         - ภาพเขียนประดับผนังปราสาทอาชิลล์ คลารัค คณบดีทูต เอกอัครราชทูตฝรั่งเศส ประจำประเทศไทย

         - ภาพเขียนการกำเนิดจักรวาล สำหรับสำนักกลางคริสเตียน ประเทศไทย กรุงเทพฯ

         - ผลงานวาดเส้น ที่ตอนนี้ถูกสะสมไว้ในหลายพิพิธภัณฑ์ศิลปะของเยอรมนี

         - งานวาดเส้นในคฤหาสน์ส่วนตัวของอดีตผู้อำนวยการบริติชเคาน์ซิล ประจำประเทศไทย มร.มัวรีช คาร์คิฟ 

         - ผลงานสะสมในพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ กรุงสตอกโฮล์ม สวีเดน

         - ภาพเขียนประดับขนาดใหญ่ ประดับบริษัทเชลล์ แห่งประเทศไทย

         - ภาพเขียนภูมิจักรวาลตามไตรภูมิของปกรณัมไทย

         - ภาพเขียนประดับธนาคารแห่งประเทศไทย

         - ผลงาน มารผจญ 1 และ มารผจญ 2

         - ภาพสุดท้าย ภาพ "ม้า" เป็นภาพที่อ.ถวัลย์วาดในช่วงสุดท้ายของชีวิต

         จากตัวอย่างผลงานที่ข้างต้น เป็นการแสดงให้เห็นแล้วว่าผลงานของ อ.ถวัลย์ ดัชนี ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากทั่วโลก เนื่องจากการที่งานวาดภาพของท่านมีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ยากที่ใครจะลอกเลียนได้ โดยผลงานของ อ.ถวัลย์ ได้รับแรงบันดาลใจมาจากแนวปรัชญาทางพุทธศาสนาทั้งสิ้น ซึ่งแต่ละชิ้นก็ได้นำแนวปรัชญาพุทธศิลป์มาสร้างงานศิลปะไทยร่วมสมัยที่ทรงพลัง ลุ่มลึก และแกร่งกร้าว มีเนื้อหาสาระและมีชีวิตจิตวิญญาณของความเป็นไทยมาผสมผสานระหว่างแนวปรัชญาตะวันออกและตะวันตก

ภาพวาดถวัลย์ ดัชนี ผลงานอันทรงคุณค่าทางศิลปะ

          นอกจากนี้ผลงานของ อ.ถวัลย์ ยังมีรูปแบบเฉพาะตัวอีกคือ เป็นผลงานที่ดูลึกลับ น่าสะพรึงกลัว ด้วยอสูร หรือสัตว์ต่าง ๆ ในท่าทีเกรี้ยวกราด ซึ่งอยู่ในโทนสีขาวดำมืดครึ้มเป็นหลัก และยังใช้ฝีแปรงและการแรเงาที่สะท้อนอารมณ์ภายในออกมาอย่างเต็มเปี่ยม แต่ภายใต้ความน่าเกรงขามดังกล่าว กลับแฝงไปด้วยคติธรรมและข้อคิดที่บางคนอาจลืมเลือนไปนานแล้ว

          และด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัวแบบนี้เอง ทำให้ใคร ๆ ต่างกล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า "เห็นเพียงหางตาก็รู้แล้วว่า นี่คือผลงานของ อ.ถวัลย์" ...กระปุกดอทคอมจึงขอนำผลงานภาพวาดบางส่วนของบรมครูท่านนี้มาให้ได้ชมกัน เพื่อรำลึกถึงท่านอาจารย์ถวัลย์ ดัชนี ตลอดกาล...



ภาพวาดถวัลย์ ดัชนี ผลงานอันทรงคุณค่าทางศิลปะ

ภาพวาดถวัลย์ ดัชนี ผลงานอันทรงคุณค่าทางศิลปะ

ภาพวาดถวัลย์ ดัชนี ผลงานอันทรงคุณค่าทางศิลปะ